Return to Website

ศาลาประดู่หก

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ศาลาประดู่หก

สามารถคุยกันได้ทุกๆเรื่องโดยเฉพาะทางวิชาการดนตรียิ่งดีใหญ่

เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยไม่ต้องเสียตังค์ครับผม

ศาลาประดู่หก
Start a New Topic 
Author
Comment
ดนตรีในใจ..ในความมืด

เขียนโดย ดาริญา เกตุเลขา
ดนตรีในใจ..ในความมืด
แค่ตาบอดแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคนที่มีใจรักดนตรี หนุ่มพิการตาบอดที่ไม่เคยย่อท้อในการฝึกแม้จะต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนปกติหลายสิบเท่า แต่วันนี้เขาสามารถก้าวมาถึงจุดสูงสุดในชีวิต ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรีไทยกลุ่มภาคใต้ ร่วมบรรเลงดนตรีไทยในงานดนตรีอุดมศึกษาครั้งที่ 33 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง งานใหญ่ที่รวบรวมนักดนตรีไทยจากทั่วประเทศ
สุธน เพ็รชประสมกูล หรือ ธน เด็กหนุ่มผิวเข้มในตาพิการจากแดนสะตอผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักในดนตรีไทย นักศึกษาผู้พิการทางสายตาจาก คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอก ดนตรีไทย หนึ่งในตัวแทน ผู้เข้าบรรเลงดนตรีไทยของกลุ่มภาคใต้ ในตำแหน่งผู้เล่นประเภทสายคือ “ ซอด้วง" นอกจากนี้ยังสามารถเล่น ขลุ่ย ปี่มโนราห์ และกลองตะโพน อย่างชำนาญ
ธน เริ่มเล่นดนตรีไทยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ผมเรียนหนังสือร่วมกับคนปกติทั่วไปโดยไม่มีปัญหาเลย วันหนึ่งผมเดินผ่านห้องดนตรีไทยของโรงเรียน “เสียงดนตรีไทยจากห้องเรียนดนตรีไทยเรียกร้องให้ผมเกิดติดใจจนต้องเดินเข้าฟังใกล้ๆ และรู้สึกชอบดนตรีไทยขึ้นมาทันที ยิ่งได้รู้ว่าคนที่เล่นก็ตาบอดเหมือนกันทำให้คิดว่าตัวเองก็ต้องทำได้เช่นกัน” นั่นเป็นแรงบรรดาลใจของธน
ความพิการทางสฺายตาจะเป็นอุปสรรคในการอ่านตัวโน๊ต แต่ธน บอกว่า มันไ4ม1่ใช่ปัญหาสำคัญสำหรับการเล่นดนตรีของเขา ผมอาจต้องเพิ่มความพยายามให้มากกว่าคนอื่นๆ เพราะตัวเองมองไม่เห็น ธนยังบอกอีกว่า เริ่มเล่นแรกๆ เขาต้องใช้วิธีการสำผัสเครื่องดนตรีเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเครื่องดนตรีก่อน แล้วมาเริ่มหัดฟังเสียงดนตรีจากเทปและยังต้องอาศัยเพื่อนให้อ่านตัวโน๊ตที่เป็นอักษรเบลให้ฟังพร้อมกับจับมือเขาให้หัดจับเครื่องดนตรีไปด้วย กว่าจะสามารถเล่นเป็นเพลงจริงๆได้ผมต้องใช้เวลาเกือบปี ซึ่งมันก็นานพอสมควรจนทำให้ผมรู้สึกท้อมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้เพราะอยากทำอะไรที่คนปกติเขาทำได้และผมก็ทำไ4ด้จริงๆ บวกกับทางโรงเรียนของผมเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสายตาได้เรียนดนตรีไทยและได้ร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆด้วยความความอุตสาหะประกอบกับการสนับสนุนจากครอบครัวที่คอยเป็นกำลังใจให้มาตลอด
นักดนตรีตาบอดยังบอกอีกว่า “ครูแจ้งคือศิลปินในดวงใจของผม” เพราะเวลาครูแจ้งขับเสภาน้ำเสียงของครูให้ความรู้สึกสะเทือนใจตามบทร้องของครูไปด้วย ถึงแม้ผมจะมองไม่เห็นแต่ผมก็คิดว่าหากใครได้ยินเสียงครูแจ้งก็คงจะมีความรู้สึกเดียวกันกับผม
ผมเคยเป่าปี่ให้กับวงมโนราห์ของโรงเรียนเวลาออกแสดงตามที่ต่างๆ มา2ก่อน ซึ่งถือว่าสำคัญมากสำหรับวงมโนราห์นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความใฝ่ฝันในอนาคต ว่า ถ้าเป็นไปได้อยากเรียน กีต้าร์ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประเภทสายเพราะสัมผัสได้ง่าย และอยากเป็นนักเขียนเพลงหรือครูสอนดนตรีไทยเพื่อคนตาบอด ถึงแม้จะพิการทางสายตา แต่เขาก็ไม่เคยคิดท้อถอย พร้อมที่จะให้กำลังใจตนเอง โดยให้คติกับตนเอง ว่า “ถ้าเราคิดจะเล่น ถ้าเราคิดว่าเราจะทำ เราต้องทำได้”
เวลาพูดถึงดนตรี ธนจะแสดงสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขเหมือนกับว่าดนตรีไทยทำให้โลกที่มืดมนของคนตาบอดคนหนึ่งสดใสขึ้นมา และดูมีค่าในสายตาของคนทั่วไป ธน เล่าเรื่องราวของการเล่นดนตรีไทยได้ดั่งกับมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาชอบเล่นดนตรีไทย